ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมันและผู้ประกอบการควรมีระบบจัดการน้ำมันอย่างไร

ระบบจัดการน้ำมัน ช่วยในการบริหารจัดการน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ

 

อย่างที่ทราบกันดีว่า ‘น้ำมัน’ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินของคนเราเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่เป็นแค่เชื้อเพลิงของยานพาหนะสำหรับเราเท่านั้น แต่การเดินทางขนส่งในทุกประเทศทั่วโลก ล้วนต้องใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ของยานพาหนะมากมาย เช่น รถ, เรือ, เครื่องบินหรือรถไฟ ซึ่งหลายครั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการทั้งหลายจะต้องปวดหัวไปกับราคาที่ผันผวนของน้ำมัน ฉะนั้น การมี ระบบจัดการน้ำมัน หรือ โปรแกรมจัดการน้ำมัน สำหรับเจ้าของปั๊มหรือร้านที่ค้าชายน้ำมันเชื้อเพลิงก็จะช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการน้ำมันได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันการทุจริตของพนักงานในร้านของคุณได้อีกด้วย

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยียานยนต์จะผลักดันการใช้เชื้อเพลิงที่เป็นพลังสะอาดอย่างนวัตกรรมของรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น แต่น้ำมันก็ยังคงเป็นเชื้อเพลิงหลักของหลายประเทศ ทำให้ธุรกิจปั๊มน้ำมันหรือร้านค้าที่ขายน้ำมันยังคงดีขึ้นเรื่อยๆ ‘ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง รอบ 4 เดือน ของปี 2566 (ม.ค.– เม.ย.) เฉลี่ยอยู่ที่ 158.86 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.1% และคาดว่าในครึ่งปีหลัง การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น’ คุณนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ได้ให้ข้อมูลไว้ที่ Thai Post ฉบับวันที่ 8 มิถุนายน 2566 จากข้อมูลดังกล่าว เมื่อมีความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสูงมากขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้นผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ จึงควรมี ระบบจัดการน้ำมัน หรือ โปรแกรมจัดการน้ำมัน ที่ดีเพื่อช่วยให้คุณสามารถจัดการธุรกิจให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะน้ำมันราคาสูงหรือต่ำลง

 

 ประเภทของน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศไทย

  • น้ำมันสำเร็จรูปชนิดเบา ได้แก่ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว, น้ำมันเบนซิน, มิกซ์ไซลีน, รีฟอร์เมต และไอโซเมอร์เรต
  • น้ำมันสำเร็จรูปกึ่งหนักกึ่งเบา ได้แก่ น้ำมันอากาศยาน และน้ำมันดีเซล
  • น้ำมันสำเร็จรูปชนิดหนัก ได้แก่ น้ำมันเตา ลองเรซิดิว และยางมะตอย

โดยน้ำมันสำเร็จรูปที่สำคัญที่เราใช้อย่างแพร่หลายสำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์คือ น้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล นอกจากนี้ยังมีการนำน้ำมันเบนซินไปผสมกับเอทานอล เพื่อให้ได้นํ้ามันแก๊ซโซฮอล์ E10 E20 และ E85 ได้อีกด้วย

ปัจจัยการกำหนดราคาน้ำมันในตลาดโลก และผู้ประกอบการควรมี ระบบจัดการน้ำมันอย่างไร?

  1. ปัจจัยด้านความต้องการในการใช้น้ำมัน : หรือทางเศรษฐศาสตร์เรียกว่า (Demand) นั่นก็คือความต้องการในการใช้น้ำมันของผู้บริโภค โดยตัวแปรสำคัญที่ทำให้มี Demand สูงนั้นขึ้นอยู่กับอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเพราะมีผลต่อการใช้เชื้อเพลิงในชีวิตประจำวัน รวมถึงใช้ในการขนส่งสินค้านำเข้าและส่งออก โดยเมื่อเข้าสู่ช่วงเศรษฐกิจขยายตัวจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น และส่งผลต่อเนื่องให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยผลักดันทำให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น

  2. ปัจจัยทางความรู้สึกต่อสงครามหรือข่าวร้าย : ตลาดน้ำมันเป็นอีกตลาดที่มีความอ่อนไหวต่อเรื่องร้าย ไม่ว่าจะเป็นสงคราม, โรคระบาด, การก่อการร้าย หรือข่าวร้ายเกี่ยวกับการเงิน เศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ซึ่งเรื่องร้ายเหล่านี้จะมีผลต่อการผลิต, ขนส่ง, สำรอง และการบริโภคน้ำมันทั้งทางตรงและทางอ้อม ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเศรษฐกิจหลายประเทศและทำให้ราคาน้ำมันลดลงหรือสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยในปัจจุบันมีสถานการร์สำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่น

    • ความขัดแย้งและสงครามระหว่างรัสเซีย - ยูเครน และสหรัฐ
    • กลุ่มประเทศ OPAC ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ได้ลดกำลังการผลิตน้ำมันลง ซึ่งขัดแย้งกับความต้องการของผูบริโภคทั่วโลก ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลน
    • เศรษฐกิจและการค้าขายระหว่างประเทศชะลอตัว ซึ่งเป็นผลกระทบสืบเนื่องมาจากสถานการณ์ Covid -19

  3. การลงทุนและอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงิน : เพราะการลงทุนของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงเศรษฐกิจภายในประเทศนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีผลทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินมีความแข็งค่าหรืออ่อนตัวลงด้วย หากว่าคาเงินในประเทศแข็งตัวมากขึ้น เราก็สามารถซื้อน้ำมันจากต่างประเทศไทยถูกลง ในขณะเดียวกันหากค่าเงินในประเทศอ่อนตัวลง การซื้อและนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศก็จะแพงมากขึ้น นอกจากนั้นก็ยังมีปัจจัยเรื่องการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหรือปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศนั้นๆ รวมถึงภาวะเงินเฟ้อหรือเงินฝืดอีกด้วย

ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวสูงขึ้นหรือลดลงนั้น ล้วนมาจากอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการดังที่เราได้กล่าวไป และแม้ว่าในประเทศไทยจะสามารถผลิตน้ำมันได้เอง แต่กำลังการผลิตที่เราทำได้ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ ทำให้เรายังคงต้องนำเข้าน้ำมันจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและ OPAC เมื่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกแพงขึ้นทำให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการค้าน้ำมันในประเทศไทยต้องรับผลกระทบเรื่องราคาท่ีสูงขึ้น ทางที่ดีสุดสำหรับผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันหรือปั๊มน้ำมันขนาดเล็กใหญ่ต่างๆ จึงควรมี ระบบจัดการน้ำมันที่ดีและแม่นยำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจของคุณให้มากขึ้น

ทำไม? ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันจึงควรมี โปรแกรมจัดการน้ำมัน สำหรับตู้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของคุณ

ระบบการจัดการน้ำมัน นั้นเหมาะสำหรับทั้งตู้จ่ายน้ำมัน (ปั๊มน้ำมันส่วนตัว) สำหรับเจ้าของกิจการรายเล็ก SMEs ธุรกิจโลจิสติกส์ ไปถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รวมถึงปั๊มน้ำมันองค์กร ส่วนราชการที่มีคลังน้ำมัน เช่น กรมทางหลวง ทางหลวงชนบท ค่ายทหาร และธุรกิจตู้น้ำมันท้องถิ่นต่างจังหวัด โดยระบบจะเข้ามาช่วยให้คุณสามารถคาดการณ์ปริมาณน้ำมันในสต็อกเพื่อที่จะให้เพียงพอต่อการจำหน่าย อีกทั้งยังช่วยควบคุมการใช้งาน ช่วยลดต้นทุนและควบคุมความเสี่ยงเรื่องการทุจริตน้ำมันในองค์กร นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติต่างๆ ที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ ดังนี้

✔ สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานต่างๆ เช่น จำนวนลิตรที่เติม, ชื่อพนักงานขับรถ, หมายเลขทะเบียน, หมายเลขไมล์รถและช่วงเวลา เป็นต้น

✔ สามารถดูรายงานการใช้งานได้ทั่วโลก แม้ว่าจะไม่ได้อยู่จุดเติมน้ำมันก็ตาม ผ่านเว็บไซต์ www.mcs-connect.com บนคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ที่เชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตได้

✔ สามารถสร้างรายงานการใช้งานผ่านเว็บไซต์ได้ โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ

✔ มีระบบการซิงค์ข้อมูลแบบอัตโนมัติ ผ่านระบบเครือข่าย 3G/4G ซึ่งเป็นข้อมูลการเติมน้ำมันที่ซิงค์กับระบบอัตโนมัติตามเวลาที่กำหนดไว้ โดยที่ไม่ต้องให้พนักงานมาดึงข้อมูล นอกจากนั้นระบบยังสามารถซิงค์ข้อมูลได้ทันทีผ่านเว็บไซต์ เมื่อต้องการทราบข้อมูลการใช้งานในขณะนั้น

✔ มีระบบป้องกันการทุจริตน้ำมันได้ เพราะทุกๆ ครั้งที่เติมน้ำมันจะต้องใช้กุญแจ (Key Tag) และใส่รหัสผ่านเพื่อยืนยันตัวตนถึงจะสามารถเติมน้ำมันได้ โดยคุณสามารถเพิ่มผู้ใช้งานได้ 250 คน และอัพเกรดได้มากถึง 10,000 คน ซึ่งผู้ใช้งานแต่ละจะมีกุญแจอัจฉริยะหรือใช้เพียงรหัสผ่าน 4 หลัก ที่จะสามารถบันทึกข้อมูลของพนักงานและรถที่พนักงานเติมน้ำมันได้

✔ เมื่อเติมน้ำมันจะมีการบันทึกข้อมูลทุกครั้ง จึงทำให้ทราบการใช้งานในแต่ละครั้ง ว่าใครหรือรถคันไหนเติมน้ำมันไปเท่าไหร่ วันไหน เวลาเท่าไหร่

หากคุณคือ SMEs, ผู้ประกอบการธุรกิจโลจิสติกส์, โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงปั๊มน้ำมันท้องถิ่นต่างๆ ที่อยากมี ระบบบริหารจัดการน้ำมัน ให้มีประสิทธิภาพในองค์กรมากยิ่งขึ้น บริษัท พีดี เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ซัพพลาย 2018 จำกัด เราเป็นผู้นำและให้บริการติดตั้งตู้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซินและดีเซลไว้ใช้เองในกิจการ ด้วยเทคโนโลยีของ โปรแกรมจัดการน้ำมัน เชื้อเพลิง MCS จากประเทศเดนมาร์ก ที่ได้รับความไว้วางใจใช้บริการจากหลายบริษัทชั้นนำระดับแนวหน้า เพราะเป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการบริหารจัดการน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพมาตรฐานระดับสากล นั่นเอง นอกจากนั้น เรายังรับปรึกษาและออกแบบระบบจัดการน้ำมัน (ฟรี)

 

สนใจสอบถามใบอนุญาตสถานีบริการน้ำมัน ตู้จ่ายน้ำมัน ถังน้ำมัน ถังน้ำมันเหล็ก
รายละเอียดและราคา ติดต่อ :

บจก.พีดีเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ซัพพลาย
โทรศัพท์ : 065-5121818 (ฝ่ายขาย) หรือ 089-9966974 (สายด่วน)
Website : www.pdesupply.com
Email : peerapong.p@pdesupply.com
LINE : @pdengineering