ทิศทางธุรกิจปั๊มน้ำมันในอนาคต

เมื่อคนนิยมรถไฟฟ้ากันมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจปั๊มน้ำมันในอนาคตหรือไม่? 

.ทิศทางธุรกิจปั๊มน้ำมันในอนาคต

ในปัจจุบันเนื่องจากปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมถึงปัญหาของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเก่าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทั้งภาคธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงผู้บริโภคต้องแบกรับค่าใช้จ่ายการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น ทำให้เริ่มมีการรณรงค์ใช้พลังงานสะอาดอย่างพลังงานจากไฟฟ้า นำมาสู่ความนิยมในการหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV กันมากขึ้น และด้วยเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกนี้หลายคนย่อมคิดว่าสิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจปั๊มน้ำมันในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน

แต่ความจริงแล้ว ข้อมูลจากวิจัยกรุงศรีประเมินความต้องการใช้น้ำมันในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยราคาน้ำมันที่คาดว่าจะทรงตัวระดับสูงจากการพยุงราคาของผู้ผลิตน้ำมันกลุ่ม OPEC+ จะเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและธุรกิจต่อเนื่องในช่วงปี 2567-2569 ซึ่งขนาดของตลาดน้ำมันและก๊าซในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 238.73 พันบาร์เรลต่อวันในปี 2567 และคาดว่าจะสูงถึง 266.55 พันบาร์เรลต่อวันภายในปี 2572 เติบโตที่ CAGR 2.33% ในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ (2567-2572)

ปั๊มน้ำมันในอนาคต
ขอบคุณภาพจาก : www.mordorintelligence.com

เพราะไม่ใช่เพียงธุรกิจปั๊มน้ำมันเท่านั้นที่ขับเคลื่อนตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ยังมีอุตสาหกรรมที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของน้ำมันดิบ สำหรับดำเนินกิจกรรมการผลิตในอุตสาหกรรมของตนเองด้วย แต่ถึงกระนั้นเอง สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงต่าง ๆ ในปัจจุบันก็ยังมีความต้องการใช้น้ำมันสำเร็จรูปในประเทศไทย ที่ยังทิศทางที่เพิ่มขึ้นอยู่โดยมีปัจจัยเสริมจากการกลับมาตื่นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศไทย

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการมีแนวโน้มขยายการลงทุนสถานีบริการน้ำมันสีเขียว รวมถึงลงทุนในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับน้ำมันมากขึ้นเพื่อขยายฐานรายได้ต่อเนื่องในระยะยาว อาทิ ให้เช่าพื้นที่ค้าปลีก การติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าภายในปั๊มน้ำมัน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและรายได้ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เพื่อรองรับเทคโนโลยีที่พัฒนา รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในวงการพลังงานกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และทิศทางของธุรกิจสถานีบริการน้ำมันที่จะต้องพบกับความท้าทายใหม่ ๆ ดังนี้

แนวโน้มสำคัญในอนาคตที่จะมีบทบาทกับธุรกิจปั๊มน้ำมัน

  • การย้ายไปสู่พลังงานทดแทน : หนึ่งในแนวโน้มที่สำคัญของภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมและผู้บริโภคในอนาคตก็คือ การตระหนักและหันมาใช้พลังงานทดแทนหรือพลังงานสะอาดของผู้บริโภคทั่วโลกมากขึ้นในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งและการประกอบกิจกรรมทางธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ กำลังเป็นจุดสำคัญของกลยุทธ์ธุรกิจในอนาคต เพื่อเป้าหมายคือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำลายสิ่งแวดล้อม นั่นเอง

  • รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว : ทำให้ธุรกิจ ปั๊มน้ำมัน ต้องรีบปรับตัวเพื่อรับมือกับความต้องการของตลาด เช่น การลงทุนที่สามารถให้บริการทั้งน้ำมันทั่วไปและชาร์จรถไฟฟ้าได้ด้วย หรือการเปิดพื้นที่ให้ร้านค้าสะดวกซื้อ, ร้านขายอาหาร, เครื่องดื่ม เพื่อบริการแก่ลูกค้า เป็นต้น
 

จากแนวโน้มสำคัญดังที่เราได้กล่าวมา ทำให้บริษัทสถานีบริการน้ำมันยักษ์ใหญ่ของประเทศไทยหลายแห่งเริ่มมีการปรับตัวในธุรกิจของตนเอง เช่น บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เองก็ทุ่มงบลงทุนปี 2567 ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเน้นขยายการลงทุนธุรกิจสีเขียวหรือ Green Power 30% โดยตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้า อยู่ที่ 7,770 กิกะวัตต์-ชั่วโมง(Gwh) จากปี 2566 นี้ อยู่ที่ 3,700 กิกะวัตต์-ชั่วโมง(Gwh) ขณะที่ปี 2567 (ที่มา : energynewscenter.com)

หรือแม้กระทั่งธุรกิจ ปั๊มน้ำมัน เจ้าใหญ่ของเมืองไทยอย่าง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า ทางองค์กรมีการกำหนดเป้าหมายปี 2030 ไว้ 3 เป้าหมาย คือ ยกระดับคุณภาพชีวิตคนในชุมชน 15,000 ชุมชน ให้มีศักยภาพทางเศรษฐกิจดีขึ้น กระจายรายได้ให้คนมากกว่า 1 ล้านคน รวมถึงคำนึงด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์ปัญหาภาวะโลกร้อนและสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรและพันธมิตร OR จะดำเนินงานตามนโยบาย Sustainability for Future หรือ การสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่านการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ในแบบฉบับของ OR เช่น การบริหารจัดการด้านขยะ, มุ่งสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ อีกทั้งยังพัฒนา4 กลุ่มธุรกิจสำคัญอย่าง กลุ่มธุรกิจ Seamless Mobility, กลุ่มธุรกิจ All Lifestyles, กลุ่มธุรกิจ Global Market และ กลุ่ม OR Innovation โดย OR พร้อมที่จะปรับบอร์ดธุรกิจด้านพลังงานเพื่อความมั่งคนสู่พลังงานสะอาดมากยิ่งขึ้น พร้อมกับแสวงหาโอกาสในธุรกิจใหม่เพื่อสร้างความยั่งยืนในอนาคต (ที่มา : bangkokbiznews.com)

แล้วธุรกิจ ปั๊มน้ำมัน ขนาดเล็กควรปรับตัวอย่างไร?

สำหรับสถานีบริการน้ำมันขนาดเล็ก อาจต้องปรับตัวเพื่อทำให้เข้ากับสถานการณ์และทิศทางของอนาคตที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ หรือการวางแผนการตลาดอย่างมีกลยุทธ์มากขึ้น เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างเหมาะสม ดังต่อไปนี้

  1. การนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้ในปั๊มน้ำมันของคุณ : เช่น การนำเทคโนโลยีอัตโนมัติในกระบวนการให้บริการน้ำมัน อย่างตู้จ่ายน้ำมันอัตโนมัติ ที่มีระบบบริหารจัดการน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ยังช่วยป้องกันการทุจริตน้ำมันได้อีกด้วย โดยระบบการจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง MCS จากประเทศเดนมาร์กของบริษัท พีดี เอ็นจิเนียริ่ง นั้นจะเข้ามาช่วยให้คุณสามารถคาดการณ์ปริมาณน้ำมันในสต๊อกเพื่อที่จะให้เพียงพอต่อการจำหน่าย อีกทั้งยังช่วยควบคุมการใช้งาน ช่วยลดต้นทุนและควบคุมความเสี่ยงเรื่องการทุจริตน้ำมันในองค์กรได้ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย

    โดยคุณสามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานต่าง ๆ ของ ปั๊มน้ำมัน ของคุณ เช่น จำนวนลิตรที่เติม, ชื่อพนักงานขับรถ จึงทำให้ทราบการใช้งานในแต่ละครั้ง ว่าใครหรือรถคันไหนเติมน้ำมันไปเท่าไหร่ วันไหน เวลาเท่าไหร่ นอกจากนั้นยังสามารถดูรายงานการใช้งานได้ทั่วโลกผ่านเว็บไซต์ www.mcs-connect.com บนคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก สมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต ที่เชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้

  2. การวางแผนกลยุทธ์การตลาดและการทำโซเชียลมีเดีย : เพราะธุรกิจ ปั๊มน้ำมัน ขนาดเล็กการจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากได้ จะต้องใช้เทคโนโลยีของโซเชียลมีเดียเข้าช่วยโปรโมตทั้งให้คนรู้จักรวมถึงโปรโมชั่นหรือกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมการขายต่าง ๆ เพื่อเรียกลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาใช้บริการธุรกิจของคุณ

  3. การพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ในปั๊มน้ำมันของคุณ : อย่างที่ทราบกันดีว่า สิ่งช่วยให้สถานีบริการน้ำมันดูน่าสนใจสำหรับผู้บริโภค นอกจากการมีห้องน้ำสะอาดไว้บริการกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาเติมน้ำมันแล้ว การมีสินค้าหรือบริการอื่น ๆ เสริมอย่าง ร้านอาหารเครื่องดื่ม, ร้านขายของฝาก, คาร์แคร์, ร้านสะดวกซื้อหรือแม้กระทั่งการลงทุนกับการทำแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับการใช้งานที่มากขึ้นของรถยนต์ EV ในอนาคต เป็นต้น


อย่างไรก็ตาม การปรับตัวและการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น ตู้จ่ายน้ำมันอัตโนมัติที่มีระบบบริหารจัดการน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไว้ให้ลูกค้าได้ใช้บริการ รวมถึงการวางแผนการตลาดที่รอบคอบและการเพิ่มบริการใหม่ ๆ ใน ปั๊มน้ำมัน ของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจสถานีบริการน้ำมันอยู่รอดได้ในอนาคตที่มีการเปลี่ยนแปลง พร้อมกับนำเสนอบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในยุคที่หันมาใช้พลังงานทดแทนกันมากขึ้น


หากคุณคือ SMEs หรือ ผู้ประกอบการธุรกิจปั๊มน้ำมัน ที่อยากมีระบบบริหารจัดการน้ำมันให้มีประสิทธิภาพในองค์กรมากยิ่งขึ้น บริษัท พีดี เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ซัพพลาย 2018 จำกัด เราเป็นผู้นำและให้บริการติดตั้งตู้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีเทคโนโลยีของโปรแกรมจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง MCS จากประเทศเดนมาร์ก ได้รับความไว้วางใจใช้บริการจากหลายบริษัทชั้นนำระดับแนวหน้า เพราะเป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการบริหารจัดการน้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพมาตรฐานระดับสากลนั่นเอง นอกจากนี้เรายังรับปรึกษาและออกแบบระบบจัดการน้ำมัน (ฟรี)

 

 

สนใจสอบถามใบอนุญาตสถานีบริการน้ำมัน ตู้จ่ายน้ำมัน ถังน้ำมัน ถังน้ำมันเหล็ก
รายละเอียดและราคา ติดต่อ :

บจก.พีดีเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ซัพพลาย
โทรศัพท์ : 065-5121818 (ฝ่ายขาย) หรือ 089-9966974 (สายด่วน)
Website : www.pdesupply.com
Email : peerapong.p@pdesupply.com
LINE : @pdengineering